วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2565 เวลา 15.00 น. ณ บริเวณภายในวงเวียนเทพสตรี ซึ่งประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ นำพวงมาลาพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว , พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ถวายราชสักการะ ต่อเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ทั้งนี้ เพื่อเทิดทูนและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ นานัปการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชกรณียกิจ ด้านการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ยังความเจริญแก่สยามประเทศ ทั้งด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การค้า และสถาปัตยกรรม โดยเมืองลพบุรี เมื่อครั้งรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีความทันสมัย สวยงาม เป็นเมืองรับรองคณะฑูตานุทูตจากต่างประเทศหลายคณะ และทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกศาสนาต่างๆ โดยเท่าเทียม
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถือเป็น พระมหากษัตริย์ลำดับ ที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา พระราชสมภพเมื่อ วันจันทร์เดือนยี่ปีวอก พุทธศักราช 2175 หลังจากเสวยราชสมบัติที่กรุงศรีอยุธยาได้ประมาณ 10 ปี ทรงมีพระราชดำริให้สถาปนาเมืองเก่า คือ เมืองลวธานี หรือ ลพบุรีในปัจจุบันเป็นราชธานีที่สอง แล ะเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่ลพบุรี เป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 8 เดือน สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2231 สิริพระชนมายุ 56 พรรษา โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2553 กำหนดให้วันที่ 11 กรกฎาคมของทุกปีเป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ
โดยก่อนหน้านั้น นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี (ในนามผู้แทนเลขาธิการสภากาชาดไทย) ได้นำหน่วยงานข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนมูลนิธิต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ร่วมทำพิธีถวายพวงมาลาราชสักการะ และกล่าวถวายราชสดุดีสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยพร้อมเพียงกัน